การฉีด PRP ผม : การบำบัดฟื้นฟูเส้นผมด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)
การฉีด PRP ผม คืออะไร?
PRP คือส่วนประกอบหนึ่งของเลือดที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดสูง ซึ่งเกล็ดเลือดเหล่านี้อุดมไปด้วย Growth Factors หรือปัจจัยการเจริญเติบโต ที่มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงหนังศีรษะและรากผมของเราด้วยครับ
การฟื้นฟูผมด้วย PRP คืออะไร และทำงานอย่างไร?

PRP (Platelet-Rich Plasma) เป็นเทคนิคที่ใช้เซลล์จากร่างกายของเราเองเพื่อช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม แพทย์เริ่มใช้การบำบัดด้วย PRP ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 โดยเดิมทีใช้เพื่อเร่งกระบวนการฟื้นตัวของข้อต่อที่ได้รับบาดเจ็บ ต่อมามีการค้นพบว่าพลาสม่าที่มีความเข้มข้นสูงสามารถช่วยยืดระยะการเจริญเติบโตของเส้นผมได้
แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากแขนของคุณในปริมาณเล็กน้อย และนำมาปั่นแยกพลาสมา เลือดที่เก็บมาจะถูกนำเข้าสู่เครื่องปั่นเหวี่ยง เพื่อแยกพลาสม่าที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดออกจากเซลล์เม็ดเลือดแดง
การฉีด PRP เข้าไปในหนังศีรษะ พลาสม่าที่ได้จะถูกฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง โดยแพทย์ เมื่อ PRP ถูกฉีดเข้าไปแล้ว จะเริ่มทำงานตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย โดยช่วย ซ่อมแซมหลอดเลือด กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ใหม่ และเพิ่มการสร้างคอลลาเจน ซึ่งส่งผลให้เส้นผมหนาขึ้นและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ขั้นตอนการฉีด PRP ผม
-
การเจาะเลือด
แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากแขนของคนไข้ในปริมาณเล็กน้อย ประมาณ 10-20 มิลลิลิตร ซึ่งคล้ายกับการตรวจเลือดทั่วไป -
การปั่นแยกพลาสม่า
เลือดที่ได้จะถูกนำไปใส่ในเครื่องปั่นเหวี่ยง ซึ่งจะหมุนด้วยความเร็วสูงเพื่อแยกส่วนประกอบของเลือดออกมา ส่วนที่ต้องการคือ พลาสม่าที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด (PRP) ที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดสูงกว่าเลือดปกติถึง 4-5 เท่า -
การกระตุ้นเกล็ดเลือด
ในบางกรณี แพทย์อาจใช้สารกระตุ้นบางชนิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Growth Factors ใน PRP ทำให้สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น -
การฉีด PRP เข้าสู่หนังศีรษะ
PRP ที่สกัดได้จะถูกฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่มีปัญหาผมบางหรือผมร่วง แพทย์อาจใช้เทคนิค Dermapen หรือ Microneedling ร่วมด้วย เพื่อช่วยให้ PRP ซึมเข้าสู่หนังศีรษะได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น -
หลังการฉีด PRP
หลังทำการรักษา คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น ควรดูแลหนังศีรษะตามคำแนะนำของแพทย์ และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงกับเส้นผมในช่วงแรก
PRP ผม เหมาะกับใคร?

การฉีด PRPผม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง ในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง รวมถึงผู้ที่มีภาวะผมร่วงจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผมให้แข็งแรงหลังจากการทำเคมีบำบัด นอกจากนี้ ยังมีการนำ PRP ไปใช้รักษาปัญหาผมร่วงจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) หรือผมร่วงหลังคลอดบุตร
ข้อดีของการฉีด PRPผม
![]() |
![]() |
- เป็นธรรมชาติ: ใช้เลือดของคนไข้เอง จึงมีความปลอดภัยสูง และไม่มีความเสี่ยงต่อการแพ้หรือผลข้างเคียงรุนแรง
- เห็นผลลัพธ์: ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ทำให้ผมดูหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมเดิม
- ไม่ต้องพักฟื้น: หลังการฉีด สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที
- ทำได้หลากหลายบริเวณ: นอกจากหนังศีรษะแล้ว ยังสามารถใช้ PRP รักษาปัญหาผมบางในบริเวณอื่นๆ ได้ เช่น หนวด เครา หรือคิ้ว
ข้อควรระวัง
- จำนวนครั้ง: อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 3-6 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์
- ผลลัพธ์ส่วนบุคคล: ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจเห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ในขณะที่บางรายอาจต้องทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผล
- ค่าใช้จ่าย: มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการผมดกหนาอย่างเป็นธรรมชาติ
- ข้อห้าม: ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือมีโรคเกี่ยวกับเลือด ไม่ควรเข้ารับการรักษาด้วย PRP
ข้อมูลอัปเดตจากต่างประเทศ
มีการศึกษาและงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับ PRP ผม ที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ต่างประเทศ ซึ่งยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการฉีด PRP ในการรักษาปัญหาผมบาง ผมร่วง โดยมีการศึกษาที่พบว่า PRP สามารถช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผม และลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาที่พบว่า PRP สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในหนังศีรษะ ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยให้ผมแข็งแรงและมีสุขภาพดี
สรุป
ฉีด PRP ผม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง ที่ต้องการฟื้นฟูผมให้กลับมาดกหนาอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผมและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- Q: ฉีด PRP ผม เจ็บไหม?
- A: ขณะฉีดอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้วจะทนได้ครับ แพทย์อาจใช้ยาชาเฉพาะที่ เพื่อลดความเจ็บปวดขณะฉีด
- Q: ฉีด PRP ผม กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
- A: โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 3-6 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์ แต่บางรายอาจเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- Q: ผลลัพธ์ของการฉีด PR ผม อยู่ได้นานแค่ไหน?
- A: ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานหลายเดือนถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการดูแลรักษาผมหลังการรักษา
- Q: ฉีด PRP ผม มีผลข้างเคียงไหม?
- A: โดยทั่วไปแล้ว PRP ผมมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้เลือดของคนไข้เอง แต่อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยแดง หรืออาการบวม บริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน
Disclaimer: ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเพื่อทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ