ปลูกผมเทียม BioFiber คืออะไร?
การปลูกผมเทียมแบบ BioFiber นั้นต่างจากการปลูกผมปกติที่ใช้เทคนิค FUE & DHI เพราะว่าการปลูกผมเทียมจะวัสดุสังเคราะห์ที่ทำจากพลาสติกมาทำเป็นเส้นผม จาก monacrylic, polyacrylic, polyester มีให้เลือกหลายสี ส่วนมากก็จะตามสีผมที่คนส่วนมากมีกัน โดยวิธีการนั้นก็จะนำเส้นผมเทียมฝังลงไปในหนังศรีษะตามแนวเส้นผมจริง ระยะความห่างก็จจะดูจากความแตกต่างของแต่ละคน เพื่อให้เกิดทรงผมที่ดกหนาเป็นปกติตามธรรมชาติ
ปัจจุบันมีผู้ผลิตผมเทียม BioFiber อยู่ 2 บริษัท คือ
- Biofibre from Medicap Italy (กลุ่มประเทศในยุโรป)
- Nido corporation ของประเทศญี่ปุ่น
เกิดการถกเถียงกันต่างๆ น่าๆ อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ในปี 1983 ทำให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ต้องออกมาประกาศสั่งห้ามทำการปลูกผมเทียมในสหรัฐอเมริกา โดยได้ให้เหตุผลว่า
- เส้นผมเทียมมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย เนื่องจากความไม่เข้ากันทางชีวภาพและประสิทธิภาพการปลูกผม เช่น การติดเชื้อซ้ำ ร่างกายปฏิเสธผมเทียม และการหลุดร่วงของเส้นผมเทียมเป็นระยะๆ ซึ่งจำเป็นต้องปลูกผมบ่อยๆ และเกิดอาการแพ้ง่าย
- องค์การอาหารและยาอ้างว่าใยเส้นผมเทียม มีการเผยแพร่ข้อมูลหลอกลวง ชวนเชื่อเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลลัพธ์ และไม่แสดงประโยชน์ใดๆ ต่อสุขภาพของประชาชน
ภายหลังจากนั้นเป็นต้นมาทางบริษัทผู้ผลิตก็ยังคงพัฒนาใยเส้นผมเทียมสังเคราะห์ต่อ เพื่อให้ใกล้เคียงกับเส้นผมมนุษย์และดูเป็นธรรมชาติที่สุด ปัญหาที่ได้รับผลกระทบในก่อนหน้านี้นั้นได้ทำวิจัยและแก้ไขมาแล้ว ทุกวันนี้ บริษัทต่างๆ อ้างว่าเส้นใยชีวภาพสามารถเข้ากันได้ทางชีวภาพและทำด้วยวัสดุที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาที่ใช้ในทางการแพทย์ สามารถทำการปลูกถ่ายเส้นผมเทียมให้กับผู้ป่วยนอกได้อย่างรวดเร็ว ปลูกเส้นผมเทียมได้ 800 เส้น/ชั่วโมง ไม่บาดเจ็บ ด้วยเทคนิคการผูกปมแล้วฝังเข้าไปในหนังศีรษะด้วยเครื่องมือเล็กๆ เส้นผมเทียมมีความยาวต่างกัน (15-45 ซม.) สีและสไตล์ : ลอน หยักศก ตรง
ข้อดีของ การปลูกผมเทียม
- เส้นผมไม่มีวันหลุด
- ได้ผลลัพธ์จะทันทีทันใดไม่เหมือนกับการปลูกผมแบบปกติ ไม่ต้องรอจนผมขึ้น
- เส้นขนดูเป็นธรรมชาติและยากที่จะแยกความแตกต่างจากขนจริงๆ
- ผู้ป่วยที่มีปัญหาศรีษะล้าน มีจำนวนผู้บริจาคที่จำกัด สามารถเป็นผู้ที่เหมาะสมและไม่มีรอยแผลเป็นจากผู้บริจาคเช่น FUT หรือ FUE
ข้อเสีย ของการปลูกผมเทียม
- ไม่ถาวรและสามารถสูญเสียเส้นผมสังเคราะห์ได้ประมาณ 10-20% ต่อปี
- ทิ้งรอยแผลเป็นเล็กๆ เมื่อเส้นผมเทียมหลุดร่วงไป
- ต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
- ต้องใช้แผ่นทดสอบประมาณ 100 เส้นเพื่อดูว่ามันทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อร่างกายหรือไม่
- บำรุงเป็นประจำ โดยใช้แชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมชนิดพิเศษ
- ผมเทียมจะยาวเท่าเดิม – งอกออกมาใหม่ไม่ได้ เพราะไม่มีรากผมเหมือนเส้นผมจริงที่รองอกใหม่ได้
- อาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
- เส้นผมจะหลุด/หัก วันละ 1- 5 เส้น
- ปมของใยสังเคราะห์จะถูกทิ้งฝังอยู่เต็มหนังศีรษะ
ปลูกผมเทียม ราคาเท่าไหร่ ?
ราคา : 37 – 102 บาท ต่อเส้นผม (ไม่ใช่การปลูกถ่ายหรือต่อกราฟท์) ราคานี้คือจากในประเทศต่างๆ เช่น ยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น
บทสรุป
การปลูกผมเทียมด้วย BioFiber เป็นเทคนิคที่เพิ่งออกสู่ตลาดได้เพียง 3 ปี อีกทั้งเส้นใขสังเพคราะห์ผมเทียมยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งของประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ผลงานวิจัยและการศึกษาผลกระทบในระยะยาวยังไม่มีตีพิมพ์ออกมาให้เห็นกันอย่างเปิดเผย แน่นอนว่าหากในอนาคตเทคนิคการปลูกผมเทียมมีเทคโนโลยีที่ได้รับการรองรับแล้ว อาจเป็นหนทางใหม่สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากศรัษะโดยไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือโรงผิวหนังต่างๆ อาจจะได้รับการแก้ไขปัญหาได้จริงๆ
แต่ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอและยังไม่ได้รับการยอมรับ อีกทั้งการนำสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างการนั้นอาจเกิดการปฏิเสธได้ การปลูกผมเทียม BioFiber จึงไม่ใช่วิธีที่เหมาะในปัจจุบันนี้