เปิดบริการทุกวัน 11.00-20.00 น.
064-645-6469

ปลูกผมเจ็บไหม

ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านนั้น เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งที่เกิดจากกรรมพันธุ์ สารเคมีต่างๆ หรือเกิดจากโรคในระบบต่างๆ เช่น ไทรอยด์ ไตวาย ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผมร่วงจนบางครั้งถึงขั้นมีปัญหาศีรษะล้าน ทำให้หลายคนเกิดความไม่มั่นใจในตนเอง ส่งผลต่อสุขภาพจิตได้ เพราะเส้นผมนั้นเปรียบได้กับเครื่องประดับบนศีรษะ คงไม่มีใครอยากที่จะผมร่วง

          คนที่พบกับปัญหาผมร่วง ก็ต้องการที่จะหาทางทำให้ผมบนศีรษะนั้นงอกออกมาใหม่ มีวิธีการในการปลูกผม เช่น ใช้ยาปลูกผมที่มีทั้งแบบยาทาและยาแบบกิน ซึ่งก็ต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องและอาจจะไม่ได้ผลกับทุกคนที่ปลูกผมด้วยยา และการใช้ยาย่อมมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย การปลูกผมแบบถาวร  จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ค่อนข้างให้ผลในการรักษาที่สูงกว่าการรักษาด้วยยาปลูกผม

 

การ ปลูกผมถาวร คืออะไร

การ ปลูกผมถาวร คือวิธีการย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยของผู้รับการปลูกผมเอง มาปลูกไว้ที่ส่วนที่ต้องการให้มีผมขึ้นใหม่ โดยต้องทำการย้ายมาทั้งรากผมและความยาวของเส้นผม ซึ่งเป็นวิธีการปลูกผมที่ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัด และต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างต่อเนื่องจนกว่ารากผมจะแข็งแรงและงอกเองต่อไปได้

ปลูกผมถาวร มีกี่วิธี

  1. FUT (Follicular Unit Transplant) ปลูกผมแบบแผลตัดเย็บ

แพทย์จะใช้วิธีการตัดหนังศีรษะที่อยู่ทางด้านหลัง ซึ่งเป็นบริเวณที่รากผมแข็งแรง และนำหนังศีรษะพร้อมรากผมที่ตัดออกมานำไปปลูกผมบริเวณที่ต้องการ การ ปลูกผมถาวร แบบ FUT เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงเป็นบริเวณกว้าง เช่น หัวล้าน ผมบาง ที่ต้องใช้กราฟท์ผมจำนวนมาก เพราะสามารถนำรากผมออกมาจากหลังศีรษะได้เป็นจำนวนมากเพื่อนำมาปลูก กล่าวคือหากมีพื้นที่ของการหลุดร่วงของเส้นผมกว้างเท่าใด ก็ต้องใช้ปริมาณกราฟท์ที่มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีรากผมถี่ก็ต้องใช้กราฟท์มากกว่าผู้ที่ผมบาง

การผ่าตัดแบบนี้เป็นการผ่าตัดที่ไม่ต้องทำการใช้ยาสลบ เพียงแค่ใช้การฉีดยาชาเพื่อผ่าตัดเท่านั้น การปลูกผมด้วยเทคนิค FUT มีข้อดีคือมีประสิทธิภาพสูงเพราะเป็นการปลูกผมด้วยรากผมของตนเอง หากรากผมแข็งแรงก็มีโอกาสปลูกผมได้สำเร็จ ใช้ระยะเวลาในการทำน้อยและทำได้คราวละมากๆ เมื่อทำแล้วมีโอกาสที่แผลติดเชื้อน้อยจึงมีความปลอดภัย บริเวณหนังศีรษะกับรากผมที่ถูกตัดออกมาสามารถไว้ผมเพื่อปกปิดที่ด้านหลังได้ แต่ก็มีข้อจำกัด คือ จะทิ้งรอยแผลยาวไว้ที่ด้านหลัง หนังศีรษะจะมีความตึงมากขึ้นเนื่องจากการเย็บแผลติดกัน ใช้เวลาการพักฟื้นนาน และต้องไปพบแพทย์เพื่อดูอาการตามนัดจนกว่าแผลจะหายสนิท

  1. FUE (Follicular Unit Extraction) ปลูกผมแบบไร้รอยเย็บ

เป็นการ ปลูกผมถาวร แบบการย้ายรากผมเฉพาะกราฟท์ผมโดยที่ไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมา โดยที่แพทย์จะใช้เครื่องมือชนิดพิเศษที่มีหัวเจาะเล็กเพียงแค่ 0.8-1 มิลลิเมตร ในการเจาะกราฟท์ผมออกมาจากหนังศีรษะ โดยสามารถเลือกเอาเซลล์รากผมที่มีความแข็งแรงได้เป็นจุดๆ โดยการเจาะแต่ละครั้งจะได้รากผมประมาณ 1-4 เส้น เพื่อนำไปปลูกตรงบริเวณที่ต้องการ

โดยรากผมที่แพทย์นำมาใช้ปลูกนั้นมาจากบริเวณท้ายทอยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความหนาแน่นของผมสูง รากผมแข็งแรง ทำให้แบ่งไปปลูกผมบริเวณอื่นได้โดยที่ไม่ทำให้ผมบริเวณท้ายทอยบางลง เมื่อปลูกแล้วเซลล์รากผมจะมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วง ข้อดีของการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE คือทิ้งรอยแผลเอาไว้ตรงจุดที่ดึงรากผมออกมาเล็กมาก ไม่ต่างจากรูขุมขนทำให้สังเกตไม่ออก แผลหายไวไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องไปตัดไหมเพราะไม่มีการผ่าตัด สามารถออกแบบลักษณะรูปทรงการปลูกผมได้อย่างเหมาะสมกับรูปหน้าเพราะเป็นการปลูกผมแบบทีละจุด มีโอกาสในการปลูกสำเร็จมากหากรากผมมีความสมบูรณ์ แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการทำนานเพราะในการนำรากผมมาใช้แต่ละครั้งทำได้น้อยกว่า และหากแพทย์ไม่ชำนาญอาจทำให้กราฟท์ผมที่ดึงมาไม่ครบ ส่งผลต่อผลสำเร็จในการปลูกผมได้

            3.DHI (Direct Hair Implantation)

การปลูกผมแบบ DHI เป็นวิธีการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ประเภทหนึ่ง แต่จะแตกต่างกับวิธี FUE ที่จะใช้ขั้นตอนในการเจาะรูและปักกราฟท์ผมลงไปในรูนั้น แต่ DHI จะใช้เครื่องมือที่มีขนาดเล็กเพียง 0.6-0.8 มิลลิเมตร ในการดึงกราฟท์ผมออกมาโดยที่ไม่กระทบต่อเซลล์รากผม ไม่สร้างอาการบาดเจ็บกับศีรษะบริเวณโดยรอบ สามารถปักและปลูกผมได้ในขั้นตอนเดียว ข้อดีของการปลูกผมแบบ DHI มีความปลอดภัยสูง สามารถกำหนดมุมและทิศทางของเส้นผมได้ดี ทำให้ออกแบบรูปทรง แนวเส้นผม แนวไรผมในการปลูกผมให้เหมาะสมกับใบหน้าผู้รับการรักษาได้ ปลูกได้แน่นและถี่จึงมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น แผลมีขนาดเล็ก หายได้ไว แต่ก็ใช้ระยะเวลาในการปลูกผมนานกว่าแบบอื่นเช่นกัน

ปลูกผมถาวร เจ็บไหม

           การ ปลูกผมถาวร เป็นการทำศัลยกรรมประเภทหนึ่ง ที่ช่วยในการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน การปลูกผมด้วยเทคนิคทั้ง 3 แบบ ที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะต้องมีการตัดหนังศีรษะในการทำแบบ FUT การดึงกราฟท์ผมในเทคนิค FUE , DHI ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีอาการเจ็บบ้าง โดยเฉพาะในการตัดหนังศีรษะแบบเทคนิค FUT แต่จะเป็นความเจ็บในระดับเล็กน้อยเท่านั้น เพราะไม่ได้เป็นการผ่าตัดใหญ่แบบศัลยกรรมประเภทอื่น ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่า การ ปลูกผมถาวร จะเจ็บมากจนน่ากลัวแต่อย่างใด

ปลูกผมถาวร แบบไหน เจ็บน้อยกว่ากัน

          การ ปลูกผมถาวร แบบ FUT นั้นจะใช้วิธีการตัดหนังศีรษะที่ท้ายทอยออกมาเพื่อนำไปปลูกบริเวณที่ต้องการ ทำให้มีรอยแผลที่เกิดจากการผ่าตัด ต้องใช้การพักฟื้นจนแผลหายสนิทราว 1 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างนั้นอาจจะมีอาการเจ็บแผลอยู่บ้าง ซึ่งก็จะเจ็บมากกว่าการปลูกผมแบบ เทคนิค FUE , DHI ที่ใช้วิธีการดึงกราฟท์ผมออกมาเฉพาะจุด ทำให้ทิ้งรอยแผลไว้เล็กมากจนแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา

ปลูกผมถาวร เหมาะกับใคร

          การ ปลูกผมถาวร เหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหาผมร่วง ผมบาง ทั้งที่มาจากกรรมพันธุ์ หรือเป็นผลข้างเคียงจากโรคที่ทำให้ผมร่วงจนไม่เหลือรากผมให้สามารถงอกออกมากได้แล้ว โดยส่วนมากจะเป็นผมบริเวณด้านหน้าและตรงกลางศีรษะ ปัญหานี้ทำให้ผู้ป่วยเกิดความเครียดและไม่มั่นใจในตนเอง รวมถึงผู้ที่มีอาการผมร่วงแล้วรักษาด้วยการใช้ยาไม่ได้ผล ก็สามารถใช้เทคนิคการปลูกผมแบบถาวรได้ เป็นการรักษาที่ได้ผลเร็วและค่อนข้างถาวรเพราะรากผมที่นำมาปลูกนั้นจะมีความแข็งแรง

ปลูกผมถาวร ได้ผลมากน้อยแค่ไหน

การ ปลูกผมถาวร นั้น มีโอกาสในการรักษาอาการผมบาง ศีรษะล้านได้ค่อนข้องสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ผู้รักษา หากแพทย์มีความเชี่ยวชาญในการดึงเอากราฟท์ผมออกมาอย่างสมบูรณ์ ก็จะทำให้บริเวณที่ปลูกผมนั้น เส้นผมมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วง รวมถึงการนำกราฟท์ผมจากจุดที่เรียกว่า Safe Donor Zone (บริเวณผมถาวร) โดยจุดนี้จะอยู่บริเวณท้ายทอยมาใช้ จะทำให้รากผมที่ปลูกมีความแข็งแรงมาก แต่ Safe Donor Zone ของผู้ป่วยแต่ละคนนั้นก็มีพื้นที่และความหนาแน่นของรากผมไม่เท่ากัน หากนำออกมาเยอะก็จะทำให้ผมบริเวณนั้นบางจนเกินไป ทำให้แพทย์อาจต้องเลือกกราฟท์ผมบริเวณใกล้เคียงมาใช้ด้วย เพื่อกระจายตำแหน่งในการเจาะกราฟท์ผมมาใช้ ซึ่งรากผมอาจจะไม่แข็งแรงเท่าจุดที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามการปลูกผมแบบถาวรนี้ มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าการรักษาแบบอื่น

การดูแลหลังการ ปลูกผมถาวร

การดูแลหลังปลูกผมมีความสำคัญมาก เพราะในช่วงนี้รากผมยังมีความอ่อนแอต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นผมอาจจะหลุดร่วงได้ การดูแลควรปฎิบัติดังนี้

  1. ไม่สัมผัสบริเวณที่ทำการปลูกผมหลังการรักษาอย่างน้อย 1 วัน เพราะรากผมยังไม่ยึดเกาะกับหนังศีรษะ การสัมผัสหรือลูบจะทำให้ผมหลุดร่วงได้ รวมถึงป้องกันการติดเชื้อด้วย
  2. ควรนอนหงายเพื่อไม่ให้บริเวณที่ปลูกผมเกิดการกดทับหรือเสียดสี
  3. หลีกเลี่ยงการสระผมบริเวณที่ทำการปลูกผมอย่างน้อย 3-4 วันแรก และหลังจากนั้นหากจะสระผมควรใช้น้ำเย็น ใช้แชมพูอ่อนๆ และสระอย่างเบามือที่สุดเพื่อป้องกับการหลุดร่วงของเส้นผม
  4. ทานยาอย่างเคร่งครัด เนื่องจากหลังการผ่าตัด จะต้องทานยาจำพวกยาแก้อักเสบ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  5. หากต้องออกจากบ้าน ควรสวมหมวกผ้าชนิดพิเศษ ที่เป็นหมวกที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องการแสงแดด ฝุ่นละออง เชื้อโรคที่จะทำให้เกิดการอักเสบ
  6. งดกิจกรรมประเภทการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์ แต่ถ้าจะให้ดีควรงดเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อไม่ให้การทำกิจกรรมหนักส่งผลกระทบต่อแผลจากการปลูกผม

หลังจากการปลูกผมนั้น เมื่อสะเก็ดแผลแห้งและหลุดไป อาจจะส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงไปด้วย แต่ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลเพราะเซลล์รากผมนั้นยังคงอยู่ที่หนังศีรษะ ให้เราทำการดูแลหนังศีรษะให้สะอาด หลังจากนั้นเซลล์รากผมก็จะแข็งแรง เส้นผมใหม่ก็จะงอกออกมาภายใน 2-3 เดือน

การ ปลูกผมถาวร เป็นวิธีการรักษาผมบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ประสบปัญหาผมบางได้ เพื่อให้การใช้ชิวตมีความสุข และมั่นใจในตัวเอง ซึ่งบทความนี้น่าจะเป็นข้อมูลในการช่วยตัดสินใจสำหรับผู้ที่มีปัญหาดังกล่าวได้