ศัลยกรรมตาสองชั้น ทางเลือกในการแก้ปัญหาดวงตาให้สวยงามและเป็นธรรมชาติ
ปัญหาดวงตาเป็นหนึ่งในข้อกังวลด้านความงามที่หลายคนพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นตาชั้นเดียว หนังตาตก หรือดวงตาที่ดูเหนื่อยล้า การทำศัลยกรรมตาสองชั้นจึงกลายเป็นวิธีแก้ไขที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการทำตาสองชั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคที่ใช้ ทักษะของศัลยแพทย์ และโครงสร้างดวงตาของแต่ละบุคคล
การทำตาสองชั้นคืออะไร?
![]() |
![]() |
ศัลยกรรมตา สองชั้นเป็นการปรับแต่งชั้นตาให้ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับใบหน้า เทคนิคที่ใช้มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน โดยศัลยแพทย์จะพิจารณารูปตา สัดส่วนใบหน้า และความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เข้ากับโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด
เทคนิคศัลยกรรม ตาสองชั้นที่ได้รับความนิยม
1. เทคนิคกรีดสั้น (Mini Incision) – แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีหนังตาส่วนเกินไม่มาก
- ต้องการฟื้นตัวเร็ว
- มีเวลาพักฟื้นน้อย
ข้อดี:
- แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว
- บวมช้ำน้อยกว่าการกรีดยาว
- สามารถนำไขมันส่วนเกินออกได้
ข้อเสีย:
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาตกมาก เพราะอาจทำให้เปลือกตาตกลงมาปิดชั้นตาในภายหลัง
- คนที่เปลือกตาหนาอาจทำให้ชั้นตาดูอูมกว่าปกติ
2. เทคนิคกรีดยาว (Full Incision) – ตัดหนังตาส่วนเกิน
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อย
- ต้องการชั้นตาชัดเจนและถาวร
ข้อดี:
- สามารถตัดหนังตาส่วนเกินได้
- ลดปัญหาหางตาตก
- ปรับแต่งชั้นตาได้ตลอดแนว
ข้อเสีย:
- ฟื้นตัวช้ากว่าแบบกรีดสั้น
- มีรอยแผลยาวกว่า
3. เทคนิคเปิดหัวตา – ตาเรียวยาวขึ้น
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีหนังปิดหัวตา ทำให้ชั้นตาไม่ต่อเนื่อง
- ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูโตขึ้น
ข้อดี:
- ดวงตาดูเรียวยาวและสดใส
- แก้ปัญหาตาชิดหรือหัวตาปิด
ข้อเสีย:
- ต้องดูแลแผลเป็นพิเศษเพื่อลดรอยแผลเป็น
4. เทคนิคยกหางตา – ซ่อนแผลใต้คิ้ว
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีชั้นตาสวยอยู่แล้ว แต่หางตาตก
- ไม่ต้องการเปลี่ยนชั้นตาเดิม
ข้อดี:
- ยกหางตาโดยไม่ต้องแก้ชั้นตา
- ฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย
5. เทคนิค Big Eye Surgery – ปรับกล้ามเนื้อตาให้โตขึ้น
![]() |
![]() |
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่ต้องการให้ดวงตากลมโตโดยไม่เพิ่มขนาดชั้นตา
ข้อดี:
- ดวงตาดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องทำชั้นตาใหญ่
- แก้ไขปัญหาตาปรือที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
6. เทคนิคย้ายไขมัน – แก้เบ้าตาลึก
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีเบ้าตาลึก ดูโทรม มีอายุ
- ไม่ต้องการเติมฟิลเลอร์หรือฉีดไขมัน
ข้อดี:
- แก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกถาวร
- ไม่ต้องกังวลเรื่องฟิลเลอร์สลาย
7. เทคนิคดูดไขมันถุงใต้ตา – ไร้รอยแผล
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีไขมันใต้ตาสะสม ทำให้ดูมีอายุ
ข้อดี:
- แผลอยู่ด้านในเปลือกตาล่าง ไม่ต้องตัดไหม
- ฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย
เลือกเทคนิคศัลยกรรมตา สองชั้นให้เหมาะกับคุณ
ตาสองชั้นหลบใน
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่เห็นไม่ชัด
- วิธีแก้ไข: ศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดสั้นหรือกรีดยาว ขึ้นอยู่กับปริมาณหนังตา
ตาชั้นเดียว-ตาเล็ก
- เหมาะกับ: ผู้ที่ไม่มีชั้นตาหรือหนังตาปิดตาดำ
- วิธีแก้ไข: ทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นหรือกรีดยาวร่วมกับตัดหนังตาส่วนเกิน
เบ้าตาลึก ตาโหล
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีเบ้าตาลึกทำให้ดูเหนื่อยล้า
- วิธีแก้ไข: ใช้เทคนิคย้ายไขมันแทนการฉีดฟิลเลอร์
ตาปรือ ตาง่วงนอน
- เหมาะกับ: ผู้ที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- วิธีแก้ไข: ผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตาร่วมกับทำตาสองชั้น
ชั้นตาไม่เท่ากัน
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีชั้นตาไม่เท่ากันแต่ตาเปิดโตปกติ
- วิธีแก้ไข: ปรับชั้นตาให้สมดุลด้วยการกรีดสั้นหรือกรีดยาว
ตาไม่เท่ากัน (ตาข้างหนึ่งเล็ก ข้างหนึ่งใหญ่)
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงข้างเดียว
- วิธีแก้ไข: เย็บกล้ามเนื้อตาร่วมกับทำตาสองชั้น
หัวตาปิด
- เหมาะกับ: คนที่มีหนังปิดหัวตา ตาดูสั้น
- วิธีแก้ไข: เปิดหัวตาร่วมกับทำตาสองชั้น
อยากให้ตาโตขึ้น แต่ไม่ต้องการชั้นตาหนามาก
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการดวงตาโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- วิธีแก้ไข: ใช้เทคนิค Big Eye Surgery เย็บกล้ามเนื้อตา
การดูแลหลังศัลยกรรม ตาสองชั้น
- 48 ชั่วโมงแรก: ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
- นอนหัวสูง: ลดอาการบวมและช้ำ
- ทำความสะอาดแผล: ใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดแผลวันละ 1-2 ครั้ง
- ป้ายยาฆ่าเชื้อ: เช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ
- เลี่ยงอาหารแสลง: อาหารหมักดอง อาหารทะเล ไข่
- ตัดไหมตามนัด: ปกติภายใน 5-7 วัน
หากดูแลอย่างถูกต้อง การศัลยกรรมตาสองชั้นสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดวงตา และทำให้ดวงตาดูสวยเป็นธรรมชาติอย่างที่คุณต้องการ
รีวิวศัลยกรรม ตาสองชั้น